ศาสตราจารย์นายแพทย์ วิชญ์ บรรณหิรัญ
American Board of Sleep Medicine
Certified international sleep specialist
เครื่องกระตุ้นทางเดินหายใจส่วนบน (upper airway stimulation, UAS) หรือที่หลายคนเรียกว่า “เครื่องกระตุ้นประสาทลิ้น (hypoglossal nerve stimulation, HGNS)” เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่การรักษา OSA ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่อึดอัด ไม่สามารถทน หรือไม่สะดวกในการใช้ เครื่องอัดอากาศแรงดันบวกต่อเนื่อง (Continuous Positive Airway Pressure, CPAP) ปัจจุบันเป็นการรักษาที่นิยมใช้ในประเทศแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา และเพิ่งเข้ามาในประเทศไทยไม่นานนี้
แม้ดูน่าสนใจ แต่ UAS ไม่ได้เหมาะกับผู้ป่วยทุกคน และต้องพิจารณาหลายด้านอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะในบริบทของประเทศไทยที่ระบบประเมินและคัดกรองยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
บทความนี้จะสรุป 5 ปัจจัยสำคัญ ที่ผู้ป่วยควรทราบก่อนเลือกแนวทางรักษานี้
1. การวินิจฉัยและประเมินความรุนแรงของ OSA อย่างถูกต้อง
- UAS เหมาะกับผู้ป่วย OSA ระดับปานกลางถึงรุนแรง ที่ไม่สามารถใช้ CPAP ได้ หรือมี compliance ต่ำ
- การวินิจฉัยต้องอาศัย sleep test โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องประเมินร่วมกับดัชนีการหยุดหายใจและหายใจแผ่ว การลดลงชองความอิ่มตัวของระดับออกซิเจน และข้อมูลการตรวจอื่น ๆ ประกอบ
2. การตรวจทางเดินหายใจขณะหลับโดยใช้ยา (drug-Induced Sleep Endoscopy, DISE) เป็น “ขั้นตอนสำคัญ”
- ก่อนพิจารณาทำ UAS ผู้ป่วยต้องได้รับการประเมินทางเดินหายใจขณะหลับด้วย DISE เพื่อดูลักษณะบริเวณคอหอย
- UAS จะได้ผล เฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่มีการยุบตัวโดยรอบ (complete concentric collapse) ของเพดานอ่อน
- หากขาดขั้นตอนนี้ อาจทำให้ทำการผ่าตัดโดยไม่ได้ผล และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
3. ผู้ป่วยต้องมีลักษณะทางกายภาพและสุขภาพที่เหมาะสม ได้แก่
- ดัชนีมวลกาย (BMI) ควรไม่เกิน 32–35 กก/ตรม.
- ไม่มีภาวะทางเดินหายใจอื่นร่วม เช่น central apnea หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังรุนแรง
- ไม่มีภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจที่ยังควบคุมไม่ได้
- ไม่ใช่ผู้ที่มีความผิดปกติของเส้นประสาทลิ้น
4. ต้องเข้าใจว่า UAS มีค่าใช้จ่ายที่ “สูง” และไม่ใช่ “จบแล้วจบเลย”
หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยต้องต้องติดตามและปรับการกระตุ้นต่อเนื่องโดย:
- กลับมาตั้งค่าและปรับระบบ (device titration)
- ปรับระดับกระตุ้นไฟฟ้าตามผล sleep test
- ตรวจติดตามเป็นระยะ และมีการประเมินผลตอบสนองใน 3–6 เดือน
5. ควรปรึกษากับทีมโสต ศอ นาสิกแพทย์ด้านการนอนหลับ (ENT Sleep Specialist)
- UAS เป็นการผ่าตัดที่เชื่อมโยงหลายศาสตร์ ต้องอาศัยแพทย์เฉพาะทางที่ ”เข้าใจทั้งด้านโครงสร้างและพยาธิสรีรวิทยาของทางเดินหายใจส่วนบนอย่างลึกซึ้ง”
- การเลือกศูนย์หรือทีม ที่มีการประเมินโครงสร้างทางเดินหายใจ ความรุนแรงของ OSA ความเหมาะสมของการกระตุ้นประสาท และการดูแลระยะยาว เป็นหัวใจของความสำเร็จ
บทสรุป: Upper Airway Stimulation (UAS) หรือ Hypoglossal Nerve Stimulation (HGNS) คือ “ความหวังใหม่” สำหรับผู้ที่ไม่สามารถทนใช้ CPAP ได้ แต่ต้องอาศัย “ทีมเฉพาะทางด้าน โสต ศอ นาสิกวิทยาการนอนหลับ” และการประเมินที่ครอบคลุม จึงจะได้ผลดีที่สุด