ยาลดน้ำหนักช่วยนอนกรนได้จริงไหม: คำตอบที่ใช่สำหรับใคร

68 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยาลดน้ำหนักช่วยนอนกรนได้จริงไหม: คำตอบที่ใช่สำหรับใคร

ศาสตราจารย์นายแพทย์ วิชญ์  บรรณหิรัญ
American Board of Sleep Medicine
Certified International Sleep Specialist  

   ผู้ที่มีปัญหา นอนกรนหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea: OSA) จำนวนไม่น้อย เคยพยายามลดน้ำหนักมาแล้วหลายวิธี ทั้งควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือหลีกเลี่ยงอาหารมื้อดึก แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ชัดเจนอย่างที่คาดหวัง บางรายน้ำหนักลดลง แต่อาการกรนหรือการนอนหลับกลับดีขึ้นเพียงเล็กน้อย หรือแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย

ในช่วงหลัง หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “ยาลดน้ำหนักชนิดใหม่” ที่มีคนพูดถึงกันมาก จะช่วยเรื่องการนอนกรนหรือ OSA ได้จริงหรือไม่ และเหมาะกับตนเองหรือเปล่า

   น้ำหนักตัวมีผลต่อ OSA แค่ไหน?
      ในทางการแพทย์ เราทราบกันดีว่า น้ำหนักตัว โดยเฉพาะไขมันบริเวณลำคอ ลิ้น และทางเดินหายใจส่วนบน มีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของ OSA ไขมันเหล่านี้อาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลงได้ง่ายขณะหลับ ส่งผลให้เกิดการกรนและการหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ

   อย่างไรก็ตาม OSA ไม่ได้เกิดจากน้ำหนักตัวเพียงอย่างเดียว โครงสร้างของขากรรไกร ลิ้น ต่อมทอนซิล รูปร่างของทางเดินหายใจ รวมถึงการควบคุมการหายใจของระบบประสาท ล้วนมีบทบาทร่วมกัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ป่วยบางรายลดน้ำหนักแล้วอาการดีขึ้นชัดเจน ขณะที่บางรายแม้น้ำหนักลดลง แต่อาการกลับเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก

   ยาลดน้ำหนักกลุ่มใหม่ช่วยอะไรได้บ้าง?
       ยาลดน้ำหนักกลุ่มที่ออกฤทธิ์ต่อฮอร์โมนในทางเดินอาหาร เช่น กลุ่ม GLP-1 และ GIP เป็นยาที่ช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้อิ่มเร็ว และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ส่งผลให้น้ำหนักลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในผู้ป่วยบางกลุ่ม

   ในผู้ป่วยที่มี OSA ร่วมกับภาวะอ้วน ยากลุ่มนี้อาจช่วยลดน้ำหนัก และอาจส่งผลทางอ้อมต่อความรุนแรงของโรค เช่น ลดแรงกดทับของเนื้อเยื่อรอบทางเดินหายใจ ทำให้การนอนหลับดีขึ้นในบางราย อย่างไรก็ตาม ยาเหล่านี้ต้องใช้ควบคู่กับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย และการรักษาด้วยวิธีอื่นตามสาเหตุของแต่ละบุคคล

   ใครอาจได้ประโยชน์ และใครควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
      การใช้ยาลดน้ำหนักไม่ใช่คำตอบสำหรับผู้ป่วยทุกคน ผู้ป่วยบางรายอาจได้ประโยชน์อย่างเหมาะสม ขณะที่บางรายอาจไม่จำเป็น หรือไม่เหมาะกับการใช้ยาในระยะยาว แพทย์จำเป็นต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ระดับความรุนแรงของ OSA จากการตรวจการนอนหลับ น้ำหนักตัว โรคร่วม โครงสร้างทางเดินหายใจ และความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยา

   ในหลายกรณี ยาอาจเป็นเพียง “ตัวเสริม” ของแผนการดูแลโดยรวม ไม่ใช่การรักษาหลัก และไม่ใช่ทางลัดเดียวในการแก้ปัญหาการนอนกรนหรือ OSA

   สิ่งสำคัญที่สุดคือการรู้จักปัญหาของตนเอง
     คำถามสำคัญจึงไม่ใช่ว่า “ยานี้ดีหรือไม่” แต่คือ “สาเหตุหลักของปัญหาการนอนของเราเกิดจากอะไร” การประเมินด้วยการตรวจการนอนหลับ (sleep test) และการตรวจโครงสร้างทางเดินหายใจ จะช่วยให้ทราบว่าน้ำหนักตัวมีบทบาทมากน้อยเพียงใด และควรวางแผนการดูแลอย่างไรจึงเหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล

   การรักษาการนอนกรนและ OSA ที่ได้ผลดีในระยะยาว มักต้องอาศัยการดูแลแบบองค์รวม ตั้งแต่การปรับพฤติกรรม การควบคุมน้ำหนัก ไปจนถึงการเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับสาเหตุของแต่ละคน ยาลดน้ำหนักอาจเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้ป่วยบางราย หากใช้อย่างเหมาะสมและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

   หากมีอาการนอนกรน ง่วงผิดปกติในเวลากลางวัน หรือสงสัยว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การเข้ารับการประเมินอย่างถูกต้อง จะช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลที่เหมาะสมและปลอดภัยในระยะยาวได้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้